การศึกษานิวซีแลนด์ เปิดกว้างให้เด็กค้นพบศักยภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของเด็กยุคโลกเปลี่ยนแปลง
ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามสำหรับงาน “การศึกษานิวซีแลนด์ 2023” (New Zealand Education Fair 2023) งานใหญ่ด้านการศึกษาที่หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับกว่า 50 สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันจัดขึ้น มีน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักมากกว่า 1,600 คน โดยมี ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 เมื่อเร็วๆ นี้
ภายในงานได้มีการมอบรางวัลศิษย์เก่านิวซีแลนด์ดีเด่น (Alumni Hall of Fame) ให้แก่ นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม, ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บํารุงเมือง จํากัด และนายทัศน์พล วิวิธวรรธ์) ดารานักแสดงดาวรุ่งจากช่อง 3 นอกจากนี้ ยังมอบรางวัล Friend of New Zealand ให้กับ คุณโชคและคุณสู่ขวัญ บูลกุล โดยมี นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ และ นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้อำนวยการด้านการศึกษา หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี
ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวระหว่างการเป็นประธานเปิดงานว่า การจัดงาน New Zealand Education Fair 2023 แสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศ สร้างเวทีและเปิดเส้นทางสู่อนาคตให้นักเรียนไทยคว้าโอกาสทางการศึกษาที่หลากหลายของนิวซีแลนด์ โดยในปี พ.ศ. 2566 มีนักเรียนไทยไปเรียนที่นิวซีแลนด์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในสถาบันภาษาอังกฤษ โรงเรียน และระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งหัวใจสำคัญของการศึกษาในนิวซีแลนด์ คือการพยายามที่จะพัฒนาบุคคลให้มีความรอบรู้ ไม่เพียงแต่ให้มีความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังพยายามพัฒนาให้มีทักษะและค่านิยมที่ช่วยให้พวกเขา สามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นถึงการเสริมศักยภาพของผู้เรียนให้ตระหนักถึงแรงบันดาลใจของตนเอง เพื่อนำไปสู่เป้าหมายความสำเร็จในอนาคต เป็นระบบการศึกษาที่ออกแบบมาเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจาร ณญาณ และมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
“Why stay in New Zealand; ทำไมถึงต้องไปเรียนนิวซีแลนด์”
ภายในงานยังมีการเสวนาหัวข้อ “Why stay in New Zealand; ทำไมถึงต้องไปเรียนนิวซีแลนด์” พูดคุยกับ “คุณโชคและคุณสู่ขวัญ บูลกุล” ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ทำไมถึงเลือกให้ “น้องปราบ” ลูกชายเพียงคนเดียวไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยคุณสู่ขวัญ เล่าว่า วันที่เราตัดสินใจว่าจะส่งน้องปราบไปเรียนที่นิวซีแลนด์ เราตัดสินใจบนพื้นฐานที่มีและไตร่ตรองที่ดีที่สุด ซึ่ง ณ วันนั้นเรายังไม่รู้ว่าเมื่อลูกเราไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวจริงๆแล้ว ผลออกมาจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาถึง ณ วันนี้ คำตอบออกมาแล้วว่า เป็นการคิดและตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปีที่น้องปราบได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นิวซีแลนด์ เขามีชีวิตที่มีความสุขมาก ซึ่งไม่ใช่ความสุขแบบเล่นทั้งวัน แต่เป็นสุขแบบเด็กมัธยมที่ต้องมีความรับผิดชอบ เหมือนเด็กในวัยนี้ควรที่จะต้องทั้งเรียนและใช้ชีวิต ขวัญรู้สึกว่า สิ่งแวดล้อมที่น้องปราบเข้าไปอยู่ มันเอื้ออำนวยให้เขารู้สึกว่าเขาอยากจะเรียนด้วยตัวเขาเอง ทำให้ไม่ต้องพยายามมาก และเป็นความรู้ที่เขาสนใจจริงๆ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาไปตลอด
ระบบการศึกษาเปิดกว้าง ตอบโจทย์ความต้องการของเด็ก
คุณสู่ขวัญ กล่าวเสริมว่า ด้วยระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของเด็ก เพราะการเปิดกว้างทางการศึกษาของนิวซีแลนด์ รวมถึงระบบการเรียนของนิวซีแลนด์ที่ช่วยเปิดกว้างให้เด็กแต่ละคนสามารถที่จะค้นพบความสามารถ ความสนใจ และตัวตนจริงๆ โดยจะเปิดกว้างให้เด็กได้เรียนรู้ ได้ลอง อยากเลือกวิชาเลือกอะไรเลือกเลย ความต้องการหรือความสนใจของเด็กไม่ถูกจำกัดอยู่แค่สายวิทย์-คณิตย์ หรือสายศิลป์เท่านั้น ตรงนี้ขวัญรู้สึกว่าช่วยตอบโจทย์มาก การศึกษานิวซีแลนด์มีความหลากหลายให้เลือก พอลูกเราได้เลือกเรียนในสิ่งที่เขาสนใจจริงๆ เราไม่ต้องบังคับ ทุกสิ่งมันเกิดจากแรงจูงใจของเขาเอง มันเกิดขึ้นจากความชอบจากสิ่งที่เขาเลือกเอง ฉะนั้นการที่เราจะส่งลูกไปเรียนที่ไหนนั้น ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับความเป็นตัวตนและความพร้อมของลูกเรา เราต้องเอาลูกเราเป็นที่ตั้ง อย่าเอาความกลัวและความต้องการของพ่อแม่เป็นตัวตั้งและไปใส่ตัวลูก เพราะถ้าสิ่งที่เราใส่ตัวลูกนั้นไม่เหมาะกับตัวเด็ก จะทำให้เด็กไม่มีความสุข
ด้านคุณโชค กล่าวเสริมว่า การที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกอะไรให้ลูก ต้องสอดคล้องกับจริตและนิสัยของลูกเราด้วย อย่าสะท้อนเอาความกลัวของเราและค่านิยมที่ได้ยินมาไปตัดสินที่ลูก สำหรับในมุมมองของตนอยากให้ลูกเติบโตในประเทศที่มีความเจริญมีความก้าวหน้า มีคีย์เวิร์ดที่สำคัญคือ Think Global Act Local ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ยังเคารพ (Respect) ต่อวัฒนธรรม และสังคมที่ดี ซึ่งจากการที่เราไปเห็นที่นิวซีแลนด์ เขาเป็นประเทศที่ทันสมัยมาก แต่เขายังเคารพ (Respect) ต่อวัฒนธรรมของคนพื้นเมือง ผู้คนของเขามีความเป็นมิตร ให้ความเคารพตนเองและผู้อื่น เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่า เป็นจุดที่เราอยากให้ลูกเราเติบโตมาในสังคมแบบนี้ หากลูกได้ไปอยู่ในประเทศที่เขาให้ความเคารพคนอื่น เขาก็จะเชื่อมั่นในตนเองและเคารพคนอื่นด้วย ผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดของผู้ปกครองคือ อยากให้ลูกเราเติบโตมาเป็นคนมีคุณภาพ เป็นพื้นฐานให้ชีวิตของลูกมั่นคง มีชีวิตที่ดี นี่เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนอยากได้
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studywithnewzealand.govt.nz
PR_News