มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมสะท้อน เด็กหลุดจากระบบการศึกษา สู่ตลาดแรงงานก่อนวัย
วิกฤติเงียบที่หยั่งรากลึก และหนทางแห่งความหวังในการฟื้นคืนสู่สังคมไทย
เดือนนี้ถือเป็นเดือนแห่งการให้ความสำคัญกับสิทธิ ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตของแรงงาน แต่เบื้องหลังแรงงานเหล่านี้ คือ แรงงานเด็กในวัยเรียนจำนวนมากที่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรที่นำไปสู่การหมดโอกาสและกลายเป็นแรงงานที่ขาดศักยภาพในอนาคต ด้วยเหตุนี้ เราควรหันมาตระหนักถึงความสำคัญ หากต้องการแรงงานที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า เราควรเริ่มจากวันนี้ ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมให้กับเด็กทุกคน
มีข้อมูลจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่าในปี 2567 ประเทศไทยมีเด็กและเยาวชน 9.8 แสนคน ที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษา และในจำนวนนี้เป็นการรายงานของเด็กกลุ่มใหม่ถึง 391,747 คน
นี่คือชุดข้อมูลสถานการณ์เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา ที่ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ นำมาใช้เป็นข้อมูลตั้งต้น เพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกับเครือข่ายในท้องถิ่น ตามพันธกิจของมูลนิธิศุภนิมิตฯ กับบทบาทด้านพัฒนาเยาวชน ให้มีทักษะชีวิตและมีต้นทุนชีวิตที่ดี ซึ่งเผยให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ที่ทำให้เด็กไทยต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา นั่นก็คือ ปัญหาความยากจนและรายได้ครอบครัวที่ไม่แน่นอน การทำงานนอกถิ่นฐานของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ซึ่งส่งผลต่อการเลี้ยงดูเด็ก อีกทั้งความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงสถานศึกษาที่อยู่ห่างไกล คุณภาพของการศึกษาที่ไม่เท่าเทียม อาจส่งผลให้เด็กเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนลดลง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ ที่ตามมาในแต่ละวัน ทำให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ ตัดสินใจออกจากโรงเรียน และเบนเข็มเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อนวัยอันควรไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ต้องทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย มักจะขาดทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานที่มีคุณภาพในอนาคต วงจรความยากจน จึงถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้หยั่งรากลึกและรุนแรงยิ่งขึ้น
นางรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย สะท้อนถึงสถานการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยว่า “ท่ามกลางความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจและสังคมในทุกวันนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ เราได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันปัญหาแรงงานเด็กที่เกิดจากการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร เราตระหนักดีว่า การสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึงทุกพื้นที่ คือรากฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวทางการทำงานของเรา จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือให้เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงและคงอยู่ในระบบการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการหลักของมูลนิธิศุภนิมิตฯ นั่นคือ โครงการอุปการะเด็ก และกิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น โครงการกลไกการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับกลุ่มเปราะบาง ที่เน้นการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนและแกนนำท้องถิ่น เน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบาง และดำเนินตามมาตรการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืน โครงการนี้เราเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาศักยภาพเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากเด็กและเยาวชนจำเป็นต้องหลุดจากระบบการศึกษา จะได้มีทักษะวิชาชีพติดตัวไว้สร้างรายได้ต่อไป”
“การเป็นเด็กในความอุปการะ นอกจากผมจะได้รับการสนับสนุนปัจจัยทางการศึกษาแล้ว ผมยังได้มีโอกาสเข้ารับการพัฒนาทักษะชีวิต ซึ่งผมได้นำมาปรับใช้ในชีวิต ยิ่งตอนนี้ผมได้มาเป็นครูด้วยแล้ว ผมก็ได้นำทักษะที่เคยได้รับมาปรับสอน ปรับใช้กับลูกศิษย์ ทั้งเรื่องทักษะการใช้ชีวิต ทักษะการประกอบอาชีพ เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความรู้และความสามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับตัวเอง รวมไปถึงการปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนดีครับ” นายโกวิทย์ รักษา หรือ ครูเบส อดีตเด็กในความอุปการะกล่าว
เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ครูเบส คือหนึ่งในเด็กอีกหลายคนที่ยากจน และมีโอกาสเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา ด้วยฐานะทางครอบครัวที่ยากลำบาก ทำให้ขาดโอกาสในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา โภชนาการ สุขภาพ และอื่น ๆ แต่ด้วยการสนับสนุนค่าเล่าเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา การช่วยเหลือสนับสนุนรายได้ และอาชีพเสริมของครอบครัวจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ผ่านโครงการอุปการะเด็ก ทำให้ครูเบสได้รับโอกาสในการศึกษาและครอบครัวก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างแรงงานคุณภาพที่ได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
อาจมีเหตุผลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว ความฝันส่วนตัว หรือสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะมนุษย์ โอกาสทางการศึกษา สิ่งเหล่านี้คือกลไกสำคัญที่ช่วยป้องกันเด็กจากปัญหาแรงงานก่อนวัยอันควร และยังสร้างรากฐานให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคง “โครงการอุปการะเด็ก” ไม่ใช่เพียงการให้ทุนการศึกษา แต่คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กเปราะบางยากไร้สู่ความอยู่ดีมีสุข ทั้งด้านสุขภาพอนามัยที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิต และได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ การเรียนรู้ ตลอดจนพัฒนาครอบครัวและชุมชนให้มีความมั่นคงด้านทักษะชีวิตและทักษะอาชีพที่มั่นคง ในท้ายที่สุด เด็กเหล่านี้จะสามารถเติบโตไปเป็นแรงงานคุณภาพที่มีศักยภาพ มีทักษะ และจริยธรรม ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าเหตุผลของการให้จะเป็นเช่นไร ทุกเหตุผลของการให้นั้น ยิ่งใหญ่เสมอ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและอัปเดตความเคลื่อนไหวได้ที่ https://give.worldvision.or.th/lfWMZ7
FB: https://www.facebook.com/worldvisionthailand
IG: https://www.instagram.com/worldvision_thailand
Youtube: https://www.youtube.com/@worldvisionthailand-wvft
X: https://twitter.com/WorldVisionTH
Hi-Like
ชื่อ-นามสกุล : ืFullName : Hi-Like